Blog
วิเคราะห์ เจาะลึก ข้อสอบ IELTS Listening
- March 31, 2020
- Posted by: may
- Category: Listening
ข้อสอบ IELTS พาร์ท Listening Test เป็นการทดสอบทักษะการฟังของเรา ว่าอยู่ให้ระดับไหน เป็นข้อสอบที่ไม่ว่าเราจะสอบแบบ General หรือา Academic ก็จะใช้ข้อสอบเดียวกัน มีเกณฑ์ให้คะแนนเหมือนกัน จึงทำให้ข้อสอบประกอบไปด้วย 4 หัวข้อที่เราต้องฟัง โดย 2 หัวข้อแรกจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ส่วน 2 หัวข้อหลังจะเป็นเรื่องที่มีความเป็นวิชาการ (Academic) ซึ่งความยากของเรื่องที่ฟังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ 1 – 4 ดังนี้
- ส่วนที่ 1 – จะเป็นการฟังบทสนทนาสั้นๆของคน 2 คนที่กำลังคุยกันอยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เป็นส่วนที่ง่ายที่สุด ส่วนใหญ่น้องๆจะได้ฟัง บทสนทนาทางโทรศัพท์ อาจจะเป็นเรื่องการจองโรงแรม นัดหมายต่างๆ จองโต๊ะอาหาร ไปจนถึงการขายประกัน และการสมัครงานเลยก็ได้
สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือ ตัวเลข วันที่ เวลา ชื่อเฉพาะ ซึ่งเราควรจดโน้ตสิ่งเหล่านี้ไว้ เพราะคำถามมักจะให้เราตอบเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้
- ส่วนที่ 2 – เป็นการฟังคนเพียงคนเดียวพูด ซึ่งเนื้อหาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เรื่องทั่วไปในสังคม หรือการให้ข้อมูลบางอย่าง จะไม่เป็นเนื้อหาเชิงวิชาการ ตัวอย่างสิ่งที่เราจะได้ฟังในส่วนนี้มักจะเป็น การพูดถึงห้างใหม่ที่เพิ่งเปิด ไกด์ทัวร์ที่กำลังพูดข้อปฎิบัติในการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว หรือ พิพิธภัณฑ์ การอธิบายตำแหน่งสถานที่ อธิบายแผนที่ หรือบอกทาง
สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือ พยายามฟังตำแหน่งของสิ่งต่างๆให้ดี อาจจะฝึกคำศัพท์เกี่ยวกับการบอกตำแหน่งไปก่อนก็ได้ เช่น near, opposite, behind, a little to the north, adjacent to, next to, to the north, to the south เป็นต้น
- ส่วนที่ 3 – เป็นบทสนทนา เชิงวิชาการ (Academic) ระหว่างคนหลายๆคน ประมาณ 3-4 คน ซึ่งมักจะมีจำนวนคนมากกว่าคนในบทสนทนาส่วนแรก มันจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษา การอบรบเชิงวิชาการต่างๆ การทำโปรเจค เป็นต้น
สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือ ต้องพยายามฟังให้ได้ว่าใครพูดอะไร แล้วจดโน้ตสั้นๆไว้เพื่อกันลืม เพราะบทสนทนานี้มีคนพูดหลายคน อาจจะทำให้น้องๆสับสนได้
- ส่วนที่ 4 – เป็นการบรรยายของคน 1 คน อาจจะเป็นการบรรยายในห้องเรียนของอาจารย์มหาลัยหรือการบรรยายอื่นๆที่มีหัวข้อเป็นเรื่องวิชาการ เช่น Global Warming, Pandemics in the world, Great Depression, Economic Recession และอื่นๆ ซึ่งจะใช้ทดสอบความสามารถในการฟังเชิงวิชาการ ที่จะใช้คำศัพท์ที่ยากขึ้นไปกว่าศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้พาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่ยากที่สุดของข้อสอบ Listening
สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เราต้องรู้การว่าเรากำลังฟังเรื่องอะไรอยู่ แล้วโน้ต Key words ต่างๆเอาไว้
เวลาที่ใช้สอบจะมีทั้งหมด 40 นาที โดยสิ่งที่เราจะได้ฟังทั้งหมดจากไฟล์เสียงใช้เวลา 30 นาที ซึ่งถ้าใครเลือกสอบแบบ Paper Based จะได้เวลาหลังจากไฟล์เสียงจบอีก 10 นาที เพื่อเขียนคำตอบลงในกระดาษคำตอบ แต่ถ้าใครสอบแบบ Computer based จะต้องเลือกคำตอบให้คอมพิวเตอร์เลย และจะให้เวลาอีก 2 นาที เพื่อตรวจทานคำตอบของเราหลังไฟล์เสียงจบลง
คำถามใน IELTS Listening Test แบบคร่าวๆได้ตามนี้
- เติมคำลงในช่องว่าง
- จับคู่คำตอบ กับ ตัวอักษรในโจทย์
- Multiple choice
- ตอบคำถามแบบสั้น
วิธีการเตรียมตัว
- ฝึกฟังภาษาอังกฤษ โดยการดูหนังฟังเพลง แบบไม่เปิด Subtitle
- ฟัง Podcast ภาษาอังกฤษ โดยเลือกเนื้อหาให้หลากหลาย ทั้งเรื่องทั่วไป และเรื่องที่เป็นแนว Academic เล็กน้อย
- ดู หรือ ฟัง TED Talk จะช่วยให้เราได้ฝึกฟังภาษาอังกฤษแนว Academic ได้ดีขึ้น แล้วยังจะได้เรียนรู้เรื่องต่างๆ และศัพท์เพิ่มเติม ที่อาจจะเป็นไอเดีย เอาไปตอบในพาร์ท writing ได้อีกด้วย
- ไม่จำเป็นต้องแคะขี้หูก่อนไปสอบ เพียงแค่ทำให้แน่ใจว่าหูของเราไม่อื้อ และสามารถฟังข้อสอบได้อย่างชัดเจน
- หาไฟล์เสียงสั้นๆ แล้วฝึกฟังไปด้วยเขียนไปด้วยพร้อมกัน
เทคนิคทำข้อสอบพาร์ท Listening
- เวลาช่วง 2-3 นาทีแรก คือ Golden Time เป็นช่วงเวลาที่ไฟล์เสียงกำลังอธิบายข้อสอบ ให้ใช้เวลานั้นอ่านคำถามแบบเร็วๆ เพื่อจะได้รู้แนวทาง และรู้ว่าเราจะตอบอะไรดี
- ในข้อสอบที่เป็นการเติมคำในช่องว่าง ให้ดูว่าช่องว่างนั้น จะต้องเป็นคำประเภทไหน ที่เติมไปแล้วจะถูกหลักแกรมม่า แล้วโน้ตไว้
- อ่านคำสั่งให้ละเอียด เพราะคำสั่งจะระบุให้เราตอบทั้งหมดกี่คำ เช่น NO MORE THAN THREE WORDS AND/OR A NUMBER
- ฟังไฟล์เสียงให้ดี และครบถ้วน ก่อนตอบ อย่าเพิ่งด่วนสรุป เพราะบางทีในไฟล์เสียง อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ เช่น การจองโรงแรม ตอนแรกอาจจะบอกว่าจะจองเดือนมกราคม แต่พอใกล้จะจบ อาจจะเปลี่ยนใจเป็นจองเดือนมีนาคมแทน ก็ได้
- โน้ตคำตอบไว้ที่กระดาษคำถามก่อน โดยโน้ตไว้ที่ข้างๆคำถามเลย จะทำให้เราไม่งงและสับสน และไม่เขียนตอบผิดข้อ พอ 10 นาทีสุดท้ายมาถึง เราค่อยไปเขียนตอบในกระดาษคำตอบ วิธีนี้เป็นการตรวจทานคำตอบของเราไปในตัวด้วย
- สำหรับการสอบแบบ Paper Based ให้เขียนตอบเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด กันความผิดพลาดในกรณีที่คำนั้นเป็นชื่อเฉพาะ และต้องเขียนตอบตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ถ้าเราเขียนเป็นตัวพิมพ์เล็กอาจจะทำให้เสียงคะแนนได้
- ห้ามสะกดผิด นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะการสะกดผิดแม้แต่ตัวเดียว จะทำให้เราไม่ได้คะแนนในข้อนั้นเลย
- คุมสติให้ดี ไม่ตื่นเต้นจนเกินไป ถ้าเราเตรียมตัวมาดีแล้ว เชื่อว่า Listening Test จะเป็นตัวช่วยทำคะแนน และ Band 7.0 หรือมากกว่านั้น ไม่ไกลเกินความสามารถแน่นอนค่ะ